เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 ณ ห้องเมต้า คลับราชพฤกษ์ คุณโรจนสิทธิ์ มีนิชสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย น้ำแร่ธรรมชาติจากช้าง พร้อมด้วย นายธนศักดิ์ สุรประเสริฐ รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กร สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ณรงค์วิทย์ อุ่นแสงจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการช้างเผือก โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ทีมเจ้าหน้าที่ฝึกสอนและนักฟุตบอลโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ชุดแชมป์ “ช้าง จูเนียร์ คัพ 2023” ร่วมหารือเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปฝึกซ้อมทักษะฟุตบอล ที่ประเทศอังกฤษ ในโครงการ “ช้าง จูเนียร์ คัพ ทริป ออฟ แชมเปี้ยนส์ 2023”
นายโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย น้ำแร่ธรรมชาติช้าง กล่าวว่า “ช้างยังคงมอบโอกาสให้กับเยาวชนไทยทั่วประเทศ โดยจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ “ช้าง จูเนียร์ คัพ” หนึ่งในสนามฟุตบอลเยาวชน พบกับทีมแชมป์หนึ่งเดียวที่ได้รับประสบการณ์อันล้ำค่าที่เงินซื้อไม่ได้ บินสู่ท้องฟ้าสัมผัสประสบการณ์ต้นกำเนิดฟุตบอลอังกฤษ และเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่ความสำเร็จในการก้าวสู่ฟุตบอลอาชีพและทีมชาติ”
“ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการมากกว่า 30,000 คน และเยาวชนที่ผ่านเข้ารอบ ‘ช้าง จูเนียร์ คัพ’ ได้เติบโตขึ้นเป็นนักฟุตบอลรุ่นเยาว์ระดับแนวหน้าของทีมสโมสรและทีมชาติไทยนับไม่ถ้วน ปีนี้แชมป์ตกเป็นของทีมอัสสัมชัญธนบุรี ที่คว้าแชมป์สมัยที่ 5 ได้สำเร็จ และเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ติดต่อกัน นอกจากนี้ยังมี ปกรณ์ สุทธิประภา จากโรงเรียนกีฬากรุงเทพ ที่ได้รับรางวัลนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงสุดซึ่งจะได้เดินทางไปฝึกซ้อมฟุตบอลกับทีมแชมป์ในครั้งนี้ด้วย”
“ในระยะเวลา 10 วัน เด็กๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟุตบอลจากที่มาของประวัติศาสตร์ฟุตบอล เยี่ยมชมสนามของสโมสรชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด สนามคิงเพาเวอร์ และสนามซีเกรฟ พร้อมฝึกซ้อมทักษะฟุตบอลกับทีมงานโค้ช กระทบไหล่นักฟุตบอลชื่อดังแบบเอ็กซ์คลูซีฟ แข่งขันนัดกระชับมิตร เยาวชน จากสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และชมการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เร้ดสตาร์ เบลเกรด พร้อมชมการแข่งขัน เลสเตอร์ ซิตี้ พบ บริสตอล ซิตี้ เคียงข้างกัน “
“ผมหวังว่าพวกคุณจะได้รวบรวมประสบการณ์อันล้ำค่านี้มาให้ได้มากที่สุดซึ่งเงินไม่สามารถซื้อได้ ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจสร้างโมเมนตัม และนำไปสู่การพัฒนาและพัฒนาตนเองต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ฝันไว้ รวมถึงการก้าวเข้าสู่นักฟุตบอลอาชีพและทีมชาติใน ในอนาคต สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้, บริษัท บู๊ทรูม จำกัด โดยชุดกีฬาและไลฟ์สไตล์, บริษัท อารี เกียร์ แอนด์ โมลเทน (ประเทศไทย) จำกัด ที่สนับสนุนการแข่งขันช้าง จูเนียร์ คัพ ในครั้งนี้ พร้อมร่วมมือกันพัฒนาวงการฟุตบอลให้ยั่งยืน”
นายธนศักดิ์ สุรประเสริฐ รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กร สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ที่ผ่านมา สมาคมฟุตบอลฯ ทำงานร่วมกับช้างมาโดยตลอดในการพัฒนารากฐานและสร้างความยั่งยืนให้กับวงการฟุตบอลไทย การแข่งขันฟุตบอล ช้าง จูเนียร์ คัพ 2023 เป็นอีกหนึ่งทัวร์นาเมนต์ที่เราร่วมกันจัดการแข่งขันโดยสมาคมได้ส่งผู้ตัดสินระดับฟีฟ่ามาตัดสินซึ่งโปร่งใสยุติธรรมกับทุกทีมและยังคงใช้สนามกลางคือสนามบุณยจินดาซึ่งเป็นสนามของทีมไทยลีก 1 รับรองว่าจะมีมาตรฐานเดียวกับการแข่งขันไทยลีกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ การแข่งขันครั้งนี้ยังจัดขึ้นเป็นประจำสำหรับนักเตะอายุ 13 ปี ซึ่งถือเป็นก้าวแรกและเป็นก้าวสำคัญสำหรับนักฟุตบอลรุ่นเยาว์ที่จะมีเวทีแสดงศักยภาพช่วยให้ เราค้นพบช้างเผือกจากทั่วประเทศที่ได้รับการขัดเกลาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นฟุตบอลทีมชาติไทยตั้งแต่ชุดเยาวชนไปจนถึงทีมชาติชุดใหญ่เยาวชนเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในฟุตบอลไทยในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน
นายณรงค์วิทย์อุ่นแสงจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการช้างเผือก โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี กล่าวว่า “ก่อนอื่นผมขอขอบคุณช้าง ที่จัดทัวร์นาเมนท์ดีๆ แบบนี้มาโดยตลอด ทำให้เด็กๆ ทั่วประเทศ ทั้งทีมเล็ก ทีมใหญ่ ในสังกัดโรงเรียน Academy รวมไปถึงทีมสโมสร ก็มีโอกาสนำเด็กๆ ไปแข่งขันกับทีมอื่น และที่สำคัญ แตกต่างจากทัวร์นาเมนต์อื่นๆ คือการเดินทางไปยังต้นกำเนิดของฟุตบอลอังกฤษ โดยปกติคุณสามารถดูทีมและผู้เล่นที่คุณชื่นชอบได้ทางทีวีและโซเชียลมีเดีย แต่วันนี้เด็กๆ จะได้เดินทางไปสัมผัสบรรยากาศสนามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจริงๆ ที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดว่าต้องไปสักครั้งในชีวิต เขายังได้ฝึกซ้อมฟุตบอลกับทีมสโมสรชั้นนำอีกด้วย อันจะสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองในฐานะนักฟุตบอลอาชีพที่มีคุณภาพ สุดท้ายนี้ขอให้ช้างจัดทัวร์นาเมนต์ดีๆ แบบนี้ต่อไป เพื่อให้นักฟุตบอลรุ่นเยาว์ของไทยได้มีโอกาสฝึกฝนทักษะฟุตบอลและต่อยอดต่อไป ซึ่งจะเป็นอนาคตของวงการฟุตบอลไทย”
สำหรับ “Chang Junior Cup Trip of Champions 2023” จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 18-27 กันยายน 2566 โดยสายการบินเอมิเรตส์ ในวันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2566 เวลา 09.55 น. เที่ยวบิน EK375 และเดินทางกลับในวันพุธ วันที่ 27 กันยายน 2566 เที่ยวบิน EK376 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 13.25 น.